ตำนานและประวัติไก่ชนกับพระนเรศวร
ตำนาน
และประวัติไก่ชนกับพระนเรศวรการตีไก่
เป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางในพม่า โดยเฉพาะในราชสำนักถือกันว่า
การตีไก่เป็นกีฬาชาววังวันหนึ่งได้มีการตีไก่กันขึ้นระหว่างสมเด็จพระนเรศวร
มหาราชกับไก่มังชัยสิงห์
ราชนัดดา(ต่อมาได้รับสถาปนาขึ้นเป็นพระมหาอุปราชาในสมัยพระเจ้านันทบุเรง
ราชโอรสพระเจ้าบุเรงนอง กำลังกร่ำศึก)
มังชัยสิงห์จึงขัดเคืองตรัสประชดประชันหยามหยันออกมา
อย่างผู้ถือดีว่ามีอำนาจเหนือกว่า "ไก่เชลยตัวนี้เก่งจริงหนอ" สมเด็จ
พระนเรศวรสวรจึงตรัสโต้ตอบเป็นเชิงท้าอยู่ในทีว่า ไก่เชลยตัวนี้
อย่าว่าแต่จะตีกันอย่างกีฬาในวังเหมือนอย่าง วันนี้เลย
ตีพนันบ้านเมืองกันก็ยังได้มังชัยสิงห์คัดเคืองมากหากแต่ตระหนักดีว่าสมเด็จ
พระนเรศวร
เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าบุเรงนองจะพาลวิวาทก็ยำเกรงฝีมือพระนเรศวร
ขณะที่ไก่ของสมเด็จพระนเรศวรกับไก่ของพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี
กำลังชนกันอย่างทรหด ต่างตัวต่างเข้าจิก ตีฟาดแข้ง แทงเดือยอย่างไม่ลดละ
อย่างคาดไม่ถึง
ขณะที่ไก่ฟาดแข้งกันอย่างอุตลุดพัลวันเมื่อทั้งสองไก่พัวพันกันอยู่พักหนึ่ง
ไก่ของพระมหาอุปราชก็มีอันล้มกลิ้งไปต่อหน้าต่อตา
ไก่ของพระนเรศวรกระพือปีกอย่าง ทรนงและขันเสียงใส พระมหาอุปราชถึงกับสะอึก
สะกดพระทัยไว้ไม่ได้จากตำราเชื่อว่าไก่ที่พระนเรศวรทรงนำไปชนกับพม่านั้น
นำไปจากบ้านกร่าง เดิมเรียกว่าบ้านหัวเท ซึ้งอยู่ห่างจากเมืองพิษณุโลก
ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 9 กิโลเมตร ขณะที่ชนไก่ พ.ศ. 2121 พระชันษา 23 ปี ลักษณะทั่วไปของไก่ชนพระนเรศวร เป็นพันธุ์ที่
มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดคือ พันธุ์เหลืองหางขาว
ตามตำรากล่าวว่า ไก่เหลืองหางขาวไก่เจ้าเลี้ยง
ในทุกพื้นที่ที่มีการเล่นไก่ชน ไก่เหลืองหางขาวมักจะเป็นตัวเอกทุกๆ
สังเวียนอยู่เสมอ
หรือแทบจะเรียกได้ว่าไก่พันธุ์นี้อยู่ในความครอบครองของนักเลงไก่อยู่เสมอ
ไก่เหลืองหางขาวจัดว่าเป็นไก่ที่มีสกุลและมีลักษณะเด่นมาก
จากประวัติฝีมือความสามารถ ทำให้มีการพูดเสมอในวงพนันว่า
ไก่เหลืองหางขาวกินเหล้าเชื่อ หมายความว่าเมื่อนำไก่สีนี้ไปตี
สามารถที่จะเชื่อมั่นได้ว่า
จะต้องเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอนสามารถสั่งเหล้าเงินเชื่อมากินก่อนได้เลย
ไก่
เหลืองหางขาวที่มีลักษณะตรงตามตำราหน้าหงอนบาง
กลางหงอนสูง สร้อยระย้า หน้านกยูง อกชัน หวั้นชิด หงอนบิด ปากร่อง พัดเจ็ด
ปีกสิบเอ็ด เกล็ดยี่สิบสอง ถือเป็นไก่ชั้นเยี่ยม ถือเป็นศาสตร์ลึกลับชั้นยอด
เป็นเคล็ดวิชาที่เป็นทีเด็ดของนักเลงไก่ระดับเซียน
ใครก็ตามที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ จะได้ไก่ที่ชนะตลอดกาล
เกล็ดไก่แต่ละตัวจะไม่เหมือนกันแม้จะเป็นครอกเดียวกัน
เกล็ดไก่เปรียบเหมือนกับลายมือของคน ที่สามารถบอกอนาคตและฝีมือของไก่ได้
เช่น คนลายมือขาดจะต่อยตีหนัก ไก่มีเกล็ดพิฆาตจะตีชักตีตาย
คนที่มองเกล็ดไก่ออกจะต้องมีความชำนาญแบบหมอดูลายมือ
อกชัน | คือ ยืนยืดอกหรือเชิดอก อันจะทำให้ด้านท้ายของตัวลาดลงต่ำ แสดงถึงความเป็นไก่อันธพาล |
หวั้น ชิด | คือ ข่วงหางอยู่ชิดหรือติดกับบั้นท้ายตรงบริเวณเชิงกราน ทำให้ช่องว่างระหว่างบั้นท้ายกับเชิงกรานแคบแสดงถึงความอึดอดทน |
หงอนบิด | คือ หงอนไม่ตรงบิดเอียงไปด้านข้างเล็กน้อยแต่ไม่ไช่พับเอียงมากเกินไปเพราะจะ เป็นลักษณะที่ไม่ดี แต่จะเชื่อกันว่าหงอนที่เอียงบิดไปทางขวาเป็นไก่ที่มีฝีมือตามตำราแต่หาก เอียงทางซ้ายจะไม่นิยม |
ปากร่อง | คือ ที่บริเวณจงอยปาก จะมีร่องเป็นร่องลึกเข้าไปทั้งสองข้างออกจากรูจมูก อันแสดงถึงความเข้มแข็งไม่หลุดหักง่าย |
พัดเจ็ด | คือ ที่บริเวณจะพบขนที่เรียกว่าขนพัดข้างละ 7 เส้น |
ปีกสิบ เอ็ด | คือ ขนปีกท่อนนอกมีข้างละ 11 เส้น ช่วยในการบินได้ดี |
เกล็ด ยี่สิบสอง | คือ เกล็ดที่นิ้วกลางนับรวมกันได้ 22 เกล็ด จัดเป็นไก่มีสกุลตีเจ็บตีหนัก รุนแรง |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น